[มือสอง] หลวงปู่คำพันธ์แสดงอภินิหาร
รายละเอียด
ตามหาเทพบุตรพญานาคหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญแห่งวัดพระธาตุมหาชัย
เรื่องราวการตามหาพญานาคหลวงปู่คำพันธ์ แห่งวัดพระธาตุมหาชัย เมื่อปี พ.ศ.2549 ข้าพเจ้ากับครอบครัวและเพื่อนๆ ได้เดินทางไปกราบนมัสการพระธาตุ 9 พระธาตุ
ข้าพเจ้าและคณะได้เดินทางมาถึงวัดพระธาตุมหาชัยเป็นวัดสุดท้ายและ ถึงวัดเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งข้าพเจ้าเองเคยมาวัดพระธาตุมหาชัยเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรก
ข้าพเจ้าเคยเดินทางไปคิดว่าจะไปกราบนมัสการหลวงปู่คำพันธ์แต่ก็ ต้องผิดหวังเพราะหลวงปู่ท่านไปกรุงเทพฯ และข้าพเจ้ามาที่วัดพระธาตุมหาชัยในครั้งนี้ข้าพเจ้าก็ไม่มีโอกาสที่จะได้พบท่านเพราะท่านมรณภาพแล้ว พอมาถึงข้าพเจ้าก็ได้กราบหลวงปู่ที่หน้าสังขารหลวงปู่ และข้าพเจ้าก็ได้ทำสมาธิเพื่อเป็นการเคารพหลวงปู่ แต่ปรากฏว่าใน
สมาธิของข้าพเจ้าได้พบหลวงปู่ และหลวงปู่ได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ลูกนาคช่วยอะไรหลวงปู่ได้ไหมข้าพเจ้าก็ตอบว่าถ้าสิ่งนั้นข้าพเจ้าทำ ได้ข้าพเจ้าก็ยินดีที่จะทำให้หลวงปู่ หลวงปู่ก็เลยบอกข้าพเจ้าให้ข้าพเจ้าช่วยตามหาเทพบุตรพญานาค 5 ตน มาคืนให้ท่านเจ้าคุณสำลี ปัจจุบันคือ พระราชธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร องค์ปัจจุบัน และนี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทางตามหาเทพบุตรพญานาค 5 ตน ของหลวงปู่คำพันธ์
ในวันรุ่งขึ้นข้าพเจ้าและเพื่อนๆ ก็ได้เดินทางมาวัดพระธาตุมหาชัยอีกครั้งเพื่อที่จะมาพบท่านเจ้าอาวาส วัดพระธาตุมหาชัย (ท่านอาจารย์สมัย) ข้าพเจ้าได้สอบถามท่านอาจารย์สมัยว่าท่านเคยได้พบหรือได้ยินหลวงปู่พูดถึงเทพบุตรพญานาค หรือไม่ ท่านอาจารย์สมัยได้เมตตาเล่าให้ฟังว่ามีเทพบุตรพญานาคจริงและตอนนี้ อยู่ที่วัดมรุกขนคร 3 ตนและนายเวชลูกศิษย์หลวงปู่เอาไป 2 ตน ข้าพเจ้าก็ได้ถามว่านายเวชอยู่ที่ไหนท่านอาจารย์สมัยก็บอกว่าอยู่ที่ อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี
3 วันต่อมาข้าพเจ้าและเพื่อนก็ได้เดินทางไปวัดมรุกขนคร เพื่อจะไปตามหาเทพบุตรพญานาค 3 ตน ตามที่ท่านอาจารย์สมัยบอก พอไปถึงวัดมรุกขนครข้าพเจ้าและเพื่อนก็ไปขอพบเจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร และเรียนถามเจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร ว่าเคยเห็นเทพบุตรพญานาคหรือเปล่าท่านก็ตอบว่าไม่แน่ใจเคยเห็น เป็นผู้หญิง ตัวเป็นคนแต่มีหางเป็นงูเห็นที่กุฏิท่านเจ้าอาวาสคนเดิม แต่ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ที่ไหน ข้าพเจ้าก็เลยตั้งจิตอธิษฐานหลับตาทำสมาธิระลึกถึงเทพบุตรพญานาคว่า ท่านอยู่ที่ไหน ปรากฏข้าพเจ้าได้ยินเสียงท่านตอบข้าพเจ้าว่าท่านอยู่ที่ในกุฏิท่านเจ้าอาวาสเดิมและอยู่บน หลังตู้ ข้าพเจ้าจึงเรียนบอกกับท่านเจ้าอาวาสว่า ท่านมีกุญแจกุฏิเจ้าอาวาสเดิมหรือเปล่า ถ้ามีข้าพเจ้าจะขอความเมตตาช่วยเปิดห้องในกุฏิเจ้าอาวาสเดิมให้ข้าพเจ้าดูได้ไหม เพราะข้าพเจ้าได้ยินเสียงท่านเทพบุตรพญานาคบอกข้าพเจ้าว่าท่านอยู่ใน ห้องและอยู่บนหลังตู้ ท่านร้อนมาก
ท่านเจ้าอาวาสก็เลยเมตตาเปิดกุฏิให้ดูและหาบนหลังตู้ตามที่ข้าพ เจ้าบอก ปรากฏว่าพบเทพบุตรพญานาคจริงตามที่ข้าพเจ้าบอก 3 ตน ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสทำความสะอาดให้กับเทพบุตรพญานาคและนำท่านลงแช่น้ำไว้ และข้าพเจ้าก็ได้ตั้งอธิษฐานจิตอีกว่าหากว่าเทพบุตรพญานาค 3 ตนนี้อยากให้ข้าพเจ้าบอกกับท่านเจ้าคุณราช(สำลี) ก็ขอให้เทพบุตรพญานาคแสดงอภินิหารให้ข้าพเจ้าดู ปรากฏในตอนกลับสกลนครฝนตกหนักและมีลมพายุด้วย พอเลยเขตอำเภอนาแกออกมาก็เกิดมีเสาไฟฟ้าล้มเรียงกัน
เป็นจำนวนมากในตอนนั้นข้าพเจ้าก็ยกมือพนมและอธิษฐานขอขมาเทพบุตรพญานาคว่าข้าพเจ้าไม่อยากเห็นอภินิหารแล้ว
ปรากฏว่าสิ้นคำพูดข้าพเจ้า ฝนและพายุก็เริ่มหยุดและมีแดด และข้าพเจ้าอธิษฐานว่าพรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะเดินทางไปพบท่านเจ้าคุณราช เพื่อบอกเรื่องนี้ให้ท่านทราบ วันรุ่งขึ้นข้าพเจ้าก็ได้เดินทางไปพบท่านเจ้าคุณราชที่วัดพระธาตุพนม และเล่าเรื่องราวให้ท่านฟังและขอให้ท่านได้นำเทพบุตรพญานาค 3 ตนนี้กลับไปยังวัดพระธาตุพนมด้วย ส่วนอีก2 ตน ข้าพเจ้าจะตามหามาคืนให้ท่าน ท่านเจ้าคุณราชไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มให้ข้าพเจ้า 2 เดือนต่อมาข้าพเจ้าและเพื่อนก็ได้เริ่มต้นตามหาเทพบุตรพญานาค 2 ตน ที่นายเวชนำไปที่วัดอำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนไปข้าพเจ้าก็ได้จุดธูป 36 ดอกบอกกล่าวกับเทพบุตรพญานาคว่าข้าพเจ้าจะเดินทางไปตามหาท่านขอให้ข้าพ เจ้าเดินทางไปถูกทางและให้ได้เรื่องราว ปรากฏว่าการเดินทางไปถึงอำเภอดอนมดแดงได้อย่างสะดวกสบาย พอไปถึงวัดที่นายเวชไปสร้างไว้ ข้าพเจ้าได้ไปถามชาวบ้านปรากฏว่านายเวชไม่ได้อยู่ในวัดนั้นแล้ว นายเวชได้สึกจากพระและแต่งงานไปอยู่กับภรรยาที่อำเภอวารินชำราบ
ครั้งที่ 2 ของการเดินทางตามหาเทพบุตรพญานาค วันนั้นเป็นวันเข้าพรรษาข้าพเจ้าและเพื่อนได้เดินทางไปอำเภอดอนมด แดงอีกครั้ง ครั้งนี้ข้าพเจ้าได้เดินทางไปพบท่านเจ้าคณะอำเภอดอนมดแดงเพื่อสอบถามว่าหลังจากนายเวชออกจากวัดแล้วท่าน เจ้าคณะอำเภอไปตรวจความเรียบร้อยได้เคยเห็นเทพบุตรพญานาคหรือไม่ ท่านเจ้าคณะอำเภอดอนมดแดงก็เริ่มเล่าเรื่องพญานาคให้ข้าพเจ้าและเพื่อนฟัง ว่าสังขารพญานาคที่วัดนายเวชมีจำนวนมากและท่านเองก็ได้นำมาเก็บรักษา ไว้จำนวนหนึ่ง ท่านจึงนำมาให้ข้าพเจ้าดูแต่ไม่มีเทพบุตรพญานาค และท่านก็ยังได้มอบพญานาคบริวารของเทพบุตรพญานาคจำนวนหนึ่งให้ข้าพ เจ้ามาทั้งที่ข้าพเจ้าไม่อยากได้ ท่านก็ให้ข้าพเจ้าและท่านบอกว่าเป็นของ
ข้าพเจ้า การเดินทางกลับสกลนครของข้าพเจ้าครั้งนี้เป็นที่น่าแปลกประหลาดมาก ตั้งแต่ออกจากอำเภอดอนมดแดงท้องฟ้าเป็นสีแดงมาตลอดจนมาถึงที่พระธาตุ พนมข้าพเจ้าตั้งจิตอธิษฐานกับเทพบุตรพญานาค 3 ตนที่พระธาตุพนมว่า พรุ่งนี้ข้าพเจ้าและเพื่อนจะนำบริวารพญานาคของท่านมาให้ท่านที่พระธาตุพนม
ครั้งที่ 3 เดือนพฤษภาคม 2550 เป็นช่วงที่จะใกล้เข้าพรรษาข้าพเจ้าก็ได้เริ่มติดตามหาเทพบุตรพญา นาคอีกครั้งและครั้งนี้ข้าพเจ้าได้เบอร์โทร.นายเวชมาจากพระอาจารย์ประคอง วัดเมืองเก่า อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ท่านเคยรู้จักคุ้นเคยกับนายเวช ข้าพเจ้าก็ได้โทรศัพท์ไปนัดพบกับนายเวชที่อำเภอวารินชำราบ เมื่อไปถึงข้าพเจ้าก็ได้พบกับนายเวชและนายเวชก็ได้พาข้าพเจ้าไปคุยกันที่บ้านของจ่าวี ข้าพเจ้าก็ได้พูดบอกกล่าวนายเวชตามที่หลวงปู่คำพันธ์บอกกับข้าพเจ้า ส่วนที่เหลือก็เป็นการตัดสินใจของนายเวชว่าจะนำเทพบุตรพญานาค 2 ตน มาคืนหลวงปู่หรือไม่ วันที่ 10 มกราคม 2552 นายเวชได้นำเทพบุตรพญานาค 2 ตน มาคืนไว้ที่พระธาตุมหาชัย และนายเวชได้โทรศัพท์ไปบอกพระอาจารย์ประคองให้โทรศัพท์บอกข้าพเจ้าว่าเขาได้นำ เทพบุตรพญานาค 2 ตน มาคืนหลวงปู่แล้ว ข้าพเจ้าก็รู้สึกดีใจที่สิ่งที่ข้าพเจ้าตามหามีจริงและอีก 3วันข้าพเจ้าก็ได้เดินทางไปวัดพระธาตุพนมเพื่อที่จะได้พบท่านเจ้า คุณราช (สำลี) เพื่อบอกท่านว่าตอนนี้นายเวชได้นำเทพบุตรพญานาคมาคืนไว้ที่พระธาตุ มหาชัย ขอให้พระเดชพระคุณเจ้าได้ไปรับเทพบุตรพญานาคมารวมกันไว้ที่พระธาตุพนมตามความตั้งใจของหลวงปู่คำพันธ์
วันที่ 4 ตุลาคม 2552 15 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันออกพรรษาข้าพเจ้าตั้งใจว่าจะไปทำบุญที่วัดพระธาตุหลวงประเทศ ลาว แต่ว่าสามีข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าพาไปทำบุญที่วัดพระธาตุพนม เมื่อไปถึงข้าพเจ้าไปที่กุฏิท่านเจ้าคุณราช (สำลี) ก็ได้เข้าไปกราบท่าน ข้าพเจ้ายังไม่ได้พูดอะไรกับท่านเจ้าคุณราช (สำลี) เลย ท่านได้เขียนจดหมายให้กับข้าพเจ้าและให้ข้าพเจ้านำจดหมายของท่านไปให้กับท่านพระอาจารย์สมัย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุมหาชัยเพื่อให้ท่านมอบเทพบุตรพญานาค 2 ตน ให้ข้าพเจ้านำกลับไปให้ท่านเจ้าคุณราช (สำลี) ที่พระธาตุพนม ท่านอาจารย์สมัยก็เมตตาให้ข้าพเจ้าได้นำเทพบุตรพญานาค 2 ตนกลับมาถึงวัดพระธาตุพนม ซึ่งวันนี้เป็นวัน 15 ค่ำเดือน 11 ข้าพเจ้าจะทำพิธีบูชาพญานาคที่หนองหาร หลังจากที่ข้าพเจ้าทำพิธีบูชาพญานาคเสร็จข้าพเจ้าได้ทำสมาธิและหลวง ปู่คำพันธ์ก็ได้บอกกับข้าพเจ้าว่าเมื่อข้าพเจ้านำมาเทพบุตรพญานาคมา
ครบแล้วก็ให้ข้าพเจ้าแต่งขัน 5 ขัน 8 และนำไปมอบให้ท่านเจ้าคุณราช (สำลี) มาคราวนี้ท่านเจ้าคุณราช (สำลี) ได้เมตตาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเทพบุตรพญานาค 5 ตนและเรื่องหลวงปู่คำพันธ์กับพญานาคให้ข้าพเจ้าและเพื่อนฟัง วันที่ 11 ตุลาคม 2552 ข้าพเจ้าได้ไปทำโรงทานกับเพื่อน ที่วัดท่านพระอาจารย์เขียว วัดป่าบ้านอูนนาคำอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ประมาณ 5 โมงเช้าข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์ท่านมหาฮงซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ ได้บอกกับข้าพเจ้าว่าเมื่อคืนได้ฝันเห็นหลวงปู่บอกให้ข้าพเจ้าไปที่วัดพระธาตุมหาชัย พอไปถึงข้าพเจ้าเห็นมหาฮงไปรอข้าพเจ้าที่กุฏิหลวงปู่ พอข้าพเจ้าเข้าไปถึงกุฏิหลวงปู่ข้าพเจ้านั่งสมาธิดูว่ามีอะไร ปรากฏว่าเมื่อข้าพเจ้านั่งสมาธิข้าพเจ้าได้พบหลวงปู่ ท่านขอให้ข้าพเจ้าช่วยหลวงปู่อีกครั้ง คือให้ข้าพเจ้าเขียนหนังสือเกี่ยวกับเทพบุตรพญานาคและบอกกล่าวไปยัง ลูกศิษย์หลวงปู่ว่า วันที่ 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันที่เทพบุตรพญานาค 5 ตน มารวมกันเพื่อสำแดงอิธิฤทธิ์อภินิหารหลวงปู่จึงอยากให้ลูกศิษย์ได้มาขอพรหลวงปู่จะเน้นถึงลูกศิษย์ที่เป็นนายทหารต่างๆ ว่าท่านเหล่านั้นควรจะมาที่พระธาตุพนมในวันที่ 15 ค่ำ เดือน12 เพราะในอนาคตอันใกล้ท่านนายทหารเหล่านั้นจะเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองบ้านเมืองให้สงบสุขและนำพาประชาชนให้ได้รับความสุขพ้นจาก ภัยพิบัติทั้งปวง เพื่อเป็นสิริมงคล เมื่อท่านเหล่านั้นมาที่พระธาตุพนมท่านเหล่านั้นจะได้รับคำตอบว่าคืออะไร
ตอนแรกข้าพเจ้าได้ปฏิเสธหลวงปู่ว่าข้าพเจ้าทำไม่ได้แต่พอข้าพ เจ้าไปกราบเรียนปรึกษาท่านเจ้าคุณราช(สำลี) ท่านบอกกับข้าพเจ้าว่าก็ควรจะทำตามที่หลวงปู่บอกเพราะไม่ต้องกลัวในเมื่อเราทำความดี ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเขียนเรื่องราวเทพบุตรพญานาค ข้าพเจ้าเขียนครั้งนี้เป็นครั้งแรก หากข้าพเจ้าเขียนผิดประการใดข้าพเจ้าขออภัยในครั้งนี้ด้วย
ข้าพเจ้าขอกราบอโหสิกรรม หลวงปู่คำพันธ์ เทพบุตรพญานาค 5 ตน
หากข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่านด้วยกาย วาจาใด
ที่ผิดได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย และโปรดอนุโนทนาบุญครั้งนี้แก่ข้าพเจ้าและเพื่อนด้วยเทอญ
สมเด็จคำหมากตะกรุด3ดอก บูชา 600 บาท
สมเด็จคำหมากตะกรุด1ดอก บูชา 300 บาท
พระอุปคุตกะไหล่ทอง บูชา 600 บาท
พระอุปคุต บูชา 300 บาท
ลูกอมสังกระจาย บูชา 600 บาท
สนใจโทร 0851321220 คุณธนวัฒน์