[ใหม่] ความชุกของการป่วยเป็นวัณโรคและการติดเชื้อ

659 สัปดาห์ ที่แล้ว - นครนายก - คนดู 300
  • ความชุกของการป่วยเป็นวัณโรคและการติดเชื้อ  รูปที่ 1
  • ความชุกของการป่วยเป็นวัณโรคและการติดเชื้อ  รูปที่ 2
  • ความชุกของการป่วยเป็นวัณโรคและการติดเชื้อ  รูปที่ 3
รายละเอียด
รวมวิธีลดพุง ลดต้นขา ลดต้นแขน วิธีลดน่องและสะโพก


ความชุกของการป่วยเป็นวัณโรคและการติดเชื้อ Nontuberculous Mycobacteria ในผู้ป่วยคุ้มกันบกพร่องที่วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี


Title:     ความชุกของการป่วยเป็นวัณโรคและการติดเชื้อ Nontuberculous Mycobacteria ในผู้ป่วยคุ้มกันบกพร่องที่วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี
Author:     สวรรยา พงศ์ปริตร
Description:


วัตถุประสงค์: ศึกษาอุบัติการของการติดเชื้อ Mycobecteriam tuberculosis(MTB) และการติดเชื้อ M. avium complex(MAC) และ Nontuberculous Mycobecteria (NTM) จากเสมหะและเลือดของผู้ป่วยเอดส์ที่สถานดูแลผู้ป่วยเอดส์วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ระหว่างตุลาคม 2543 – มกราคม 2545 โดยการทดสอบชีวเคมีเปรียบเทียบกับ PCR-Restriction enzyme analysis (REA) และสำรวจหาการดื้อยาของ MTB และ MAC โดยทำการแยกเชื้อ Mycobecteriam จากเสมหะ 822 ตัวอย่าง จากผู้ป่วยเอดส์ 278 คน และจากเลือดของผู้ป่วยที่มีไข้เรื้อรัง 181 ราย วิธีการวิจัย: วินิจฉัยเชื้อที่แยกได้โดยการทดสอบชีวเคมีและ PCR-REA ของ 16S-23S rDNA spacer gene แล้วทดสอบความไวต่อยาต้านวัณโรคของ MTB ที่แยกได้โดยวิธี Proportional Method และหา minimum inhibitory concentration (MIC) ของยา clarithromycin ของ MAC ที่แยกได้โดยวิธี broth macro dilution test และ E-test นอกจากนี้ยังทำการแยกวินิจฉัยแบคทีเรียและเชื้อราที่พบในเลือดของผู้ป่วย ผลการทดลอง: พบผู้ป่วยเอดส์ที่วัดพระบาทน้ำพุมีอัตราการติดเชื้อวัณโรค 15.38% เป็นวัณโรคปอด 13.54%, Disseminated TB 2.46%, พบเชื้อวัณโรคดื้อยา 33.96%, เป็น MDR-TB 11.32%, อัตราการพบเชื้อ MAC เท่ากับ 15.38% โดยพบเชื้อในเสมหะ 12%, Disseminated MAC 5.85% โดยพบเป็นเชื้อ M.avium สุงที่สุด 12.30% ไม่พบสายพันธ์ MAC ที่ดื้อต่อยา clarithromycin พบ NTM อื่น ๆ 12.30% พบในเสมหะ 12%, ในเลือด 0.31% โดยพบ M.kensasli M. scrofuleceum M. chelonee M.fortuitum M.gordonae และ M. flavescens และพบเชื้อที่สงสัยเป็น M.exnopi และ M. simiae โดยพบว่าจากเชื้อ Mycobecteriam ที่แยกได้ 245 สายพันธ์ REA-PCR ของ 16S-23S rDNA spacer สามารถจะแยกวินิจฉัยเชื้อได้ตรงกับการทดสอบชีวเคมีถึง 91.02% และแยกเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราจากในเลือดผู้ป่วยเอดส์ 16.57% พบเป็นเชื้อ Cryplococcus และ Salmonella สูงสุดอย่างละ 3.87% สรุปผลและข้อเสนอแนะ: พบการติดเชื้อ TB, MAC และ NTM สูงมากในผู้ป่วยเอดส์ทั้งในเลือดและเสมหะ โดยเฉพาะเชื้อวัณโรคดื้อยาที่มักเป็นสาเหตุการตายในผู้ป่วยเอดส์ที่สำคัญ การแยกวินิจฉัยเชอื้ที่พบในผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว จะทำให้เลือกระบบยาที่ใช้รักษาได้อย่างเหมาะสม จะช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยเอดส์ให้ยาวขึ้น REA-PCR อาจเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าการใช้ Accuprobe และเร็วกว่าการทดสอบชีวเคมีในการแยกวินิจฉัยเชื้อ Mycobecteriam อย่างไรก็ตาม วิธีการทดสอบความไวต่อยาต้านวัณโรคที่เร็วและเชื้อถือได้ยังคงเป็นที่ต้อง การ