[ใหม่] ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี
รายละเอียด
ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี ลงรักถักเชือก รักแดงๆ อายุเกินร้อยปี ขนาดยาว 4 นิ้ว โต 1.5 เซนติเมตร หายากสุดสุด ตะกรุดสำนักนี้ เรื่องเหนียวมาเป็นอันดับหนี่ง ไม่หัก ตรงปลายหนูแทะ มานิดครับ แต่ยังเห็นรักที่ลงปกคลุมตรงปลายบริเวณทีไม่มีเชือกอยู่ แสดงว่าตะกรุดสมบูรณ์
ปฐมบท
มี เรื่องเล่าสืบทอดกันมาถึงปาฏิหาริย์ของหลวงปู่เนียมมากมาย
ประวัติและปาฏิหาริย์ของท่านได้ถูกเขียนลงในนิตยสารพระเครื่องดังๆ
หลายฉบับ ท่านเป็นพระสงฆ์องค์แรกของเมืองไทยที่มรณภาพในปางไสยาสน์
ด้านพระพุทธคุณวัตถุมงคลของหลวงพ่อเนียม
มีปรากฏการณ์ปาฏิหารย์เป็นที่ร่ำลือมาช้านาน
สุดยอดพระเกจิอาจารย์
เกียรติคุณ ชื่อเสียงของท่านที่โด่ง ดังมานาน
พระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น
หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน
(ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น
ศิษย์สมเด็จโต
หลวงพ่อเนียม
ได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒา
จารย์(โต) วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า
รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
วัน หนึ่ง ท่านเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ
โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล
แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ใครจะมาจากไหนหรือไม่เห็นมีวี่แวว
แต่พอกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พาภิกษุมารวม ๕๐
รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย
ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ
ท่านอาจารย์วัดบางเหี้ย จึงพูดกับพระที่มาด้วยกัน
"เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ
ไม่ควรขัดศรัทธา" สั่งให้เรือจอดพาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด
ก็ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ
ภิกษุทุกรูป
ห้ามฝน
ใน งานทำบุญคล้ายวันเกิดของท่าน
วัดฯจัดงานสมโภชใหญ่โต ปรากฏเมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง
ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ
ร้านค้าต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่นวุ่นวายไปทั่วทั้ง
ลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด
ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า
"ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน
ฝนไม่ตกที่นี่" ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า
ดั่งคำประกาศิต
ฝนตั้งเค้าทำท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด
มีเพียงละอองฝนปรอยๆ เท่านั้น
แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโข
น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
น้ำมนต์ ของท่านไม่ได้มีเฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น
ที่ท่าวัดของท่านก็เป็นน้ำมนต์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ
"โต้ผ่วย"มาขอน้ำมนต์ ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิอยู่ที่ท่าน้ำ
เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียม สงสัย นึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ
"ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร"
เอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อ ออกไปนอกวัด
เจ๊กโต้ผ่วยคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์มา น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่
น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง
เจ๊กโต้ผ่วยตกใจ นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม
ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขอขมาต่อหลวงพ่อ