[ใหม่] ทัวร์เขมร ทัวร์เสียมเรียบ 3วัน 2คืน เริ่มจากด่านช่องสะงำ

452 สัปดาห์ ที่แล้ว - อุบลราชธานี - คนดู 657
รายละเอียด

เที่ยวเขมร 3 วัน  2 คืน เริ่มจากศรีสะเกษ ด่านช่องสะงำ
ชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนครวัด

นครวัด – นครธม –ปราสาทตาพรหม– ปราสาทบันทายศรี – โตนเลสาบ

ติดต่อเพิ่มเติมที่  087- 6487368, 086-5883442  (ยุทธ)

www.tourlaospakse.com

 

- วันที่1 : ด่านช่องสะงำ –เมืองเสียมเรียบ – โตนเลสาบ – องค์เจคองค์จอม – เขาพนมบาเค็ง

07.00 น. อรุณสวัสดิ์...ยินดีต้อนรับสู่ด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์  จังหวัดศรีสะเกษ นำคณะรับประทานอาหารเช้า (1)

08.00 น. เดินทางถึงด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองทั้งไทยและกัมพูชาแล้วเดินทางสู่เมืองเสียมเรียบ ชมบรรยากาศสองข้างทางของชาวเขมร และธรรมชาติตลอดเส้นทางสู่ เมืองเสียมเรียบ

12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน (2) ณ ภัตตาคาร ในตัวเมืองเสียมเลียบ

13.00 น. เช็คอินโรงแรมที่พัก(โรงแรมสมายริ่งหรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว) พักผ่อนให้คลายเหนื่อย หลังจากที่เดินทางมาตลอดทั้งคืน

14.00 น.เดินทางไปชมทะเลน้ำจืดหรือ โตนเลสาบ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียโดนมีชาวเวียดนามและเขมรอาศัยอยู่บนทะเลน้ำจืดเป็นจำนวนมากซึ่งประกอบอาชีพด้วยการประมงจากนั้นนำคณะไปนมัสการพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเสียบเรียบ องค์เจคองค์จอมที่ชาวเสียมเรียบมักจะมานมัสการเป็นประจำทุกวันสำคัญขอโชคขอพรเพื่อความสำเร็จในการประกอบอาชีพการงานและชมฝูงคางคาวแม่ไก่ที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณนั้น

17.00 น.ชมพระอาทิตย์อัสดงที่ เขาพนมบาเค็งท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศที่สวยงามของเมืองเสียบเรียบสวยงามตาจากเบื้องสูงเมื่อท่านมายืนอยู่บนเขาพนมบาเค็งนี้ เราจะชมพระอาทิตย์ที่ค่อยๆต่ำจนลับสายตาเป็นภาพที่ประทับใจมิรู้ลืม

18.30 น.รับประทานอาหารค่ำ (3) ณ ภัตตาคารในเสียมเรียบพร้อมชมการแสดงพื้นเมือง

20.00 น.เดินทางเข้าโรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย....ราตรีสวัสดิ์

- วันที่ 2 : ปราสาทบันทายศรี – ปราสาทตาพรหม – ปราสาทบายอน– นครธม – นครวัด                                

07.00 น.รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม (4)
08.00 น. นำคณะเดินทางไปชม ปราสาทบันทายศรี ซึ่งสร้างตอนปลายสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมัน(พ.ศ. 1510) แต่มาเสร็จเอาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5ซึ่งเป็นพระราชโอรส แต่คนที่สร้างต่อจนเสร็จเป็นพราหมณ์ ชื่อ คุรุยัชญวราหะตัวปราสาทสร้างเป็นแนวราบเป็นปราสาทเล็กๆ สร้างด้วยหินทรายด้วยการแกะสลักภาพนูนต่ำอย่างสวยงามมาก โคปุระของปราสาท บันทายศรีมีลวดลายงดงามมากจำหลักเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ผ่านโคปุระชั้นนอกซึ่งมีกรอบประตูที่ไม่ใหญ่มากนัก จะเป็นทางเดินปูลาดด้วยหินทรายสองข้างทางปักด้วยเสานางเรียง ทำด้วยหินทรายเช่นกัน ห่างเป็นระยะๆถัดออกไปเป็นสระบารายขนาดเล็ก ซึ่งกินเนื้อที่อ้อมไปถึงกลุ่มตัวปราสาทด้านในปราสาทบันทายศรี หรือที่ชาวเขมรเรียกว่าบันเตร์เสรย แปลว่า ป้อมแก่งสตรีถ้าแปลตามภาษาสันสกฤษซึ่ง ศรี แปลว่าความดีงามแล้วก็อาจจะแปลได้ว่าป้อมที่สวยงามนั่นเอง จากนั้นนำคณะเดินทางไปชม ปราสาทตาพรม สร้างในปีพ.ศ.1729โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศถวายแด่พระราชมารดาเป็นในพระพุทธศาสนาที่มีขนาดใหญ่โตมากกว่าสนามหลวงของไทยตั้งอยู่กลางป่าและมีแมกไม้ขึ้นปกคลุม

12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน (5)
13.30 น. จานนั้นชมกลุ่ม ปราสาทนครธม เริ่มจากสะพานนาคราชซึ่งด่านหนึ่งเป็นศิลาสลักเป็นรูปเทวดากำลังฉุดนาคส่วนอีกด่านหนึ่งเป็นรูกอสูรที่มีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เท่าคนจริงรวมถึง108 ตน และเป็นสะพานที่กษัตริย์เขมรใช้เป็นเส้นทางเสด็จผ่านออกเมืองนครธมของพระเจ้าชัยวรมันที่7 นำชมประตูเมืองที่มียอดเป็นรูปพระโพธิสัตว์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4ทิศที่วิจิตราพิสดารกว่าในประตูเมืองในประเทศต่างๆที่เคยพบมาจากนั้นชม ปราสาทบายอน ซึ่งเป็นศุนย์กลางของอังกอร์ธมหรือนครธมเป็นสุดยอดของปราสาทเขมร ในยุคราขกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ยอดปราสาทขนาดยักษ์ทุกหลังจะแกะเป็นเทวพักตร์ 4 หน้าหันออกไปทอดพระเนตรความเป็นไปและทุกข์สุขของประชาชนทั้ง4 ทิศเดินทางผ่านพลับพลาหรือบัลลังก์ช้างซึ่งเป็นฐานของพลับพลา สร้างด้วยหินจำหลักการจับช้างและครุฑยาวประมาณ300 เมตร เป็นสถานที่กษัตริย์นั่งทอดพระเนตร การสวนสนามการซ้อมรบ และการเฉลิมฉลองต่างๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนครวัดปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นปราสาทที่ยิ่งใหญ่ อลังการตระการตาและได้รับการขนานนามให้เป็น สิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกสร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ตามความเชื่อของศาสนาฮินดูเพื่อสร้างถวายพระศิวะ พระวิษณุ และพระนารายณ์ ว่ากันว่าการก่อสร้างปราสาทนครวัดก็เปรียบเสมือนย่อส่วนจักรวาลตามคติความเชื่อของอินเดียโบราณที่ขอมรับมาอีกทอดหนึ่งโดยตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง1300 เมตร และยาว1500 มีคูน้ำขนาดกว้าง 190เมตร ยาวด้านละ 1900 เมตรล้อมรอบเชื้อกันว่าการก่อสร้างใช้ช่างวิศวกรควบคุมการสร้าง 500 คนส่วนแรงงานใช้ถึงหนึ่งล้านคนพร้อมทั้งใช้ช้างลากหิน ห้าพันเชือก และใช้แพรบรรทุกหินจากพนมกุเลนอยู่ห่างจากเสียบเรียบ 65 กิโลเมตรโดยล่องมาทางลำน้ำเสียบเรียบถึง เจ็ดพันแพ ประมาณกันว่าใช้เวลาก่อสร้างรวมทั้งสิ้น37 ปี และนำท่านเดินทางข้ามสู่สะพานหินนาคราชที่มีความยาว 200เมตร อันเปรียบเสมือนสะพานรุ้งที่เสื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับสรวงสวรรค์ตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของภาพจำหลักนูนต่ำ เรื่องมหาภารยุทธ์ เรื่องรามเกรียรติ์ภาพพระนารายณ์ อวตารในปางต่างๆการตรวจสอบของพระเจ้าสุริยะวรมันที่2 ภาพทหารขำขันของกองทัพแห่งกรุงสยามซึ่งเรียกกองทัพเสียมกุกชมภาพการกวนเกษียรสมุทร เพื่อให้ได้น้ำอมฤตซึ่งมีขนาดใหญ่มาก และมีความยาวถึง 49เมตร และภาพจำหลักนูนต่ำที่สะดุดตาที่สุดอีกกลุ่มหนึ่งคือภาพเทพอัปสร หรือนางอัปสร จำนวนถึง 1635 นางสลักอยู่บนฝาผนังระเบียงและโคปุระทุกชิ้นซึ้งแต่ละนางแต่งกายและเครื่องประทับที่แตกต่างกัน ว่ากันว่าถ้าจำแนกทรงผมจะได้ถึง36 ทรงผม และชมนางอัปสรา ที่ลักษณะแปลกๆ อาทิอัปสรายิ้มเห็นฟันอัปสราเผยอลิ้น2 แฉก อัปสราทรงผมเซล่ามูนอุปสราใส่กางเกงขาสั้นสมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับที่พัก

18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(6) ณ ภัตตาคารในเสียมเรียบ พร้อมงานเลี้ยงคาราโอเกะ
19.00 น. เดินทางเข้าโรงแรมที่พัก....พักผ่อนตามอัธยาศัย

- วันที่ 3 : วัดใหม่ – ตลาดซาจ๊ะ – ด่านช่องสะงำ

 

07.00น. รับระทานอาหารเช้าในโรงแรม (7)
08.00น. เยี่ยมชมภาพประวัติศาสตร์ในสมัยเขมรแดง ณ วัดใหม่
10.30น. เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกฝากทางบ้านที่ ตลาดเก่าซาจ๊ะเสียมเรียบอาทิ ปลากรอบ ของที่ระลึกต่างๆ
12.00น. รับประทานอาหารกลางวัน (8) อิ่มหนำสำราญแล้วเดินทางสู่ชายแดนช่องสะงำ
16.00น. ถึงด่านช่องสะงำ ตรวจเอกสารผ่านแดน จากนั้นนำท่านออกเดินทางกลับ........โดยสวัสดิภาพ

อัตรานี้รวม

1. ค่ารถปรับอากาศระหว่างการเดินทาง
2. ค่าโรงแรมที่พักพร้อมอาหาร 8 มื้อ
3. ค่าเข้าชมโบราณสถาน
4. มัคคุเทศก์ท้องถิ่น บรรยายภาษาไทย
5. น้ำดื่ม อาหารว่างตลอดการเดินทาง
6. พนักงานบริการ คอยให้ความช่วยเหลือ และดูและคณะตลอดรายการ
7. วงเงินประกันท่านละ1,000,000 บาท/ท่าน

อัตรานี้ไม่รวม

1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม7% ภาษีหัก ณ ที่ จ่าย 3%
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
3. ค่าเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากการกระทำของลูกทัวร์                                                                                                          4. ค่าทริปไกด์